Hostage Negotiator จะพาคุณไปคุยกับคนร้าย ในฐานะนักเจรจา โดยการเจรจาของคุณจะผ่านการใช้การ์ดบทสนทนา เพื่อให้คนร้ายใจอ่อน และปล่อยตัวประกันออกมา การใช้การ์ดไม่ใช่เป็นเพียงสิ่งเดียวที่จะทำให้คุณชักจูงคนร้ายได้สำเร็จ ยังมีการใช้ลูกเต๋า เพื่อทดสอบว่าการเจรจาครั้งนั้น สำเร็จหรือไม่ ซึ่งคุณต้องวางแผนการใช้การ์ดแต่ละใบ ให้ได้ประโยชน์สูงสุดต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้น Hostage Negotiator ถูกออกแบบโดย A.J. Porfiro ผลิตโดย Van Ryder Games เป็นเกมที่เล่นได้คนเดียว เหมาะสำหรับอายุ 13 ปีขึ้นไป ใช้เวลาในการเล่นประมาณ 20 นาที เป็นเกมแนว Dice and Card games
เป้าหมายของเกม
คุณจะต้องช่วยตัวประกันออกมาจากคนร้ายให้ได้ และจับตัวคนร้าย หรือสังหารเขาทิ้งซะ
เงื่อนไขในการชนะเกม
– ไม่มีตัวประกันเหลือในช่องตัวประกัน
– ช่วยตัวประกันได้อย่างน้อยครึ่งหนึ่งของทั้งหมด
– คนร้ายถูกจับ หรือถูกสังหาร
จะแพ้ได้เมื่อไหร่?
– ตัวประกันเกินกว่าครึ่งถูกสังหาร
– คนร้ายสามารถหนีไปได้
– ไม่สามารถจั่วการ์ดความตื่นกลัว (Terror Cards) ได้อีกในช่วงตื่นกลัว (Terror Phase)
จะเริ่มเล่นเกมนี้อย่างไร?
- เลือกผู้ร้ายก่อนว่าจะเป็นใคร ซึ่งแต่ละตัวจะจับตัวประกัน และมีค่าความตึงเครียดต่างกัน ( Threart level) ตัวอย่างด้านบน ผู้ร้าย Donna Scarborough จับตัวประกันไว้ 12 คน (รูปคนสีดำด้านขวามือ ) และมีค่าความตึงเครียดเริ่มที่ 2 นำการ์ดความต้องการ (Major Demand) กับการ์ดหลบหนี (Esacape Demand) สับแล้ววางไว้ด้านบนของการ์ดผู้ร้าย
- นำหมากสีแดงวางลงตามค่าความตึงเครียด (ตรงนี้จะบอกว่าเราต้องทอยเต๋ากี่ลูกตอนใช้การ์ดบทสนทนา) และวางหมากสีเหลืองตามจำนวนตัวประกันที่คนร้ายจับไว้ หมากสีฟ้าให้วางไว้ที่เลข 0 ตรงนี้เป็นค่าตัวเลขที่เราจะนำไปซื้อการ์ดบทสนทนา(Conversation Cards)ในแต่ละรอบ
3. เรียงการ์ดบทสนทนา จากเลข 0 ไปจนถึง 8 โดยดูได้จากมุมขวาล่าง นำการ์ดเลข 0 ทั้งหมดขึ้นมือ นี้คือมือเริ่มต้นของผู้เล่น
4. นำการ์ดความตื่นกลัว (Terror Cards) ด้านหลังสีแดงสับแล้วสุ่มออกมาทั้งหมด 10 ใบ และ สุ่มการ์ดจุดสำคัญของเหตุการณ์ (Gold Pivotal Event Terror Cards) มาหนึ่งใบ วางไว้ข้างใต้สุด
เมื่อจัดเตรียมเกมตามขั้นตอนข้างต้นแล้ว ให้จัดพื้นที่ตามรูปด้านล่างนี้ เพื่อความสะดวกในการเล่น และรู้ว่าพื้นที่ต่างๆของเกมเป็นอย่างไร
Hostage Negoriator Tableau
แต้มสนทนา ( Conversation Points) แต้มนี้เอาไว้ซื้อการ์ดบทสนทนากับผู้ร้าย โดยแต้มจะเพิ่มหรือลดลง ได้จากการ์ดบางใบที่ส่งผล และจะมีโอกาสน้อยมากที่แต้มสนทนา จะลดต่ำกว่า หรือมากกว่า ค่าต่ำสุด และสูงสุดที่จะเป็นไปได้
ค่าความตึงเครียด (Threat level) แต้มนี้จะส่งผลให้เราเจรจากับคนได้ง่าย หรือยากขึ้น ถ้าสังเกตช่วงสีเขียวจะมีลูกเต๋าให้เราได้ทอยถึง 3 ลูก ส่วนช่วงสีแดงจะมีให้เราทอยได้ลูกเดียว ซึ่งจะทำให้เกมยากมาก และถ้าในกรณีที่มีการลด ค่าความตึงเครียดจากจุด S ลงไปอีก จะไม่มีการลดแต้มแต่อย่างได้ แต่จะเป็นการย้ายตัวประกันไปช่องปลอดภัยแทน ในทำนองเดียวกันตรงจุด K ถ้ามีการเพิ่มค่าความตึงเครียดเข้าไป คนร้ายจะสังหารตัวประกันทิ้ง
Hostage Negoriator จะถูกแบ่งออกเป็น 3 ช่วงด้วยกัน
- (ช่วงสนทนา) The Conversation Phase
- (ช่วงซื้อการ์ด)The Spend Phase
- (ช่วงตื่นกลัว) The Terror Phase
1.(ช่วงสนทนา) The Conversation Phase
ช่วงสนทนา เป็นช่วงที่คุณจะได้เจรจากับคนร้าย โดยผ่านการใช้การ์ดสนทนา
เราสามารถใช้การ์ดสนทนาได้ไม่จำกัดจำนวน โดยมีวิธีการใช้การ์ดอยู่ด้วยกัน 2 แบบ ก็คือ
– ใช้แบบหงายการ์ดลงไป แล้วทำการทอยลูกเต๋าคุกคาม (Threat Rools) เพื่อทดสอบว่า การ์ดที่เราใช้ไปนั้นสำเร็จหรือไม่ จำนวนลูกเต๋าที่ทอยให้ดูจาก ค่าความตึงเครียดของคนร้ายขณะนั้น
– เล่นการ์ดการคว่ำการ์ดเพื่อได้รับแต้มสนทนาเพิ่ม (ไว้ใช้ในการซื้อการ์ดสนทนาที่ระดับสูงกว่า)
วิธีการทอยเต๋าคุกคาม ใช้จำนวนลูกเต๋าตามค่าความตึงเครียดของคนร้ายขณะนั้น โดยเต๋าหน้าหมายเลข 4 เราสามารถทิ้งการ์ดสองใบเพื่อเปลี่ยนผลให้เป็นสำเร็จได้ ส่วนหน้า 5 และ 6 จะถือว่าสำเร็จ
2. (ช่วงซื้อการ์ด) The Spend Phase
ช่วงนี้ผู้เล่นสามารถใช้แต้มสนทนาในการซื้อการ์ด โดยทำตามขั้นตอนนี้
1. ผู้เล่นใช้แต้มในการซื้อการ์ดสนทนา
– โดยไม่สามารถซื้อในช่วงสนทนาได้
– การ์ดที่ซื้อจะต้องไม่ทำให้แต้มสนทนาของผู้เล่นต่ำกว่า 0
– ผู้เล่นไม่สามารถซื้อการ์ด เกิน 10 ใบได้
2. ปรับให้แต้มสนทนากลายเป็น 0 แต้มนี้จะไม่สะสมไปรอบต่อไปได้
3. นำการ์ดที่ใช้แล้ว กลับมาไปยังพื้นที่การ์ดที่สามารถซื้อได้ (พื้นที่สีเทาตามภาพด้านล่าง)
** เรายังสามารถซื้อการ์ดสนทนาที่มีแต้ม 0 แม้ว่าแต้มสนทนาเราจะต่ำกว่า 0 แล้วก็ตาม**
3.(ช่วงตื่นกลัว) The Terror Phase
ผู้เล่นจั่วการ์ดตื่นกลัวจากกองการ์ดตื่นกลัวแล้วแสดงผลตามที่เกิดขึ้น ถ้าไม่สามารถจั่วการ์ดตื่นกลัวได้ ตัวประกันทั้งหมดจะถูกฆ่าทิ้ง และผู้ร้ายจะหนีจากที่เกิดเหตุได้ ทำให้คุณแพ้เกมไป การ์ดตื่นกลัวเปรียบเสมือนเวลาที่กำลังเดินอยู่ และเหตุการณ์ที่ผู้ร้ายจะตัดสินใจทำอะไรบางอย่าง
**การ์ดตื่นกลัวบางใบจะมีผลกระทบเพิ่ม ถ้าหากเราไม่ได้ฟังความต้องการของผู้ร้าย(ใช้การ์ด “What are your demand?”) **
เมื่อเปิดการ์ดจุดสำคัญของเหตุการณ์ (Gold Pivotal Event Terror Cards) ผู้เล่นจะมีช่วงสนทนาเพิ่มอีกเป็นช่วงสุดท้าย และสามารถซื้อการ์ดสนทนาได้ นี้คือจุดแตกหักของสถานการณ์ เป็นโอกาสสุดท้ายที่คุณจะยังช่วยเหลือตัวประกัน
**กฏเพิ่มเติม **
การจับตัวคนร้าย
ผู้เล่นสามารถจะจับได้ก็ต่อเมื่อ ไม่มีตัวประกันเหลือแล้ว การลดค่าความตึงเครียดตอนที่ไม่มีตัวประกัน คนร้ายจะยอมมอบตัวให้กับเราทันที การลดค่าความตึงเครียดในช่วงตื่นกลัว ( Terror Phase ) ให้ข้ามผลตรงข้อนี้ไป
การสังหารคนร้าย
ผู้เล่นสามารถสังหารคนร้ายได้ทุกเมื่อ หลังจากนั้น ให้เปิดการ์ด “2nd In Command” การ์ดใบนี้จะส่งผลเมื่อมีการเพิ่มค่าความตึงเครียด ตัวประกันจะถูกฆ่าทิ้งไปเรื่อยจนกว่าจะเหลือตัวสุดท้าย ถ้าผู้เล่นสามารถช่วยเหลือตัวประกันได้มากกว่าครึ่งหนึ่ง ก็ยังสามารถชนะเกมได้ แต่ถ้าน้อยกว่าก็แพ้ไปตามระเบียบ
ประสบการ์การเล่น
อุปกรณ์ทั่วไปของเกม ตอนแรกที่เห็นผมตกใจเลยนะว่า ทำไมมันทำดูดีขนาดนี้ ตัวประกันที่เป็นไม้ กับบอร์ด แถมคุณภาพของการ์ดก็ดี บางเกมทำการ์ดออกมาไม่ค่อยดีเท่าไหร่ การ์ดดีไซน์รูปอาจจะดู แย่ไปนิด มีแค่รูปตัวคนพูด กับเปลี่ยนข้อความการ์ด แต่ก็ไม่ใช่ปัญหาอะไรมากนัก ส่วนมากอยู่ที่เราจินตนาการในหัวเวลาใช้การ์ดจะรู้สึกเกมมันดีจริงๆ
ทดสอบเล่นเกมนี้หลายครั้ง บางครั้งก็รู้สึกตัวเองเหมือนคนบ้ายังไงยังงั้น เล่นๆไปก็นึกในหัวเหมือนเรากำลังคุยกับคนร้ายอยู่ ว่าไปแล้วก็ขำดีครับ เกมออกแบบมาให้เล่นคนเดียว ไม่ต้องไปง้อใคร เกมดูเหมือนจะใช้ดวงจากลูกเต๋าค่อนข้างเยอะ การวางแผนที่ดีจากการให้มีแต้มสนทนาเยอะๆ ทำให้เราใช้การ์ดระดับสูงได้แต่บางครั้งด้วยดวงของการทอยก็ทำให้รู้สึกมีจังหวะที่แย่ของเกมเหมือนกัน การเล่นการ์ดให้ครบทุกใบที่มีบนมือก็ไม่ใช่คำตอบที่ดีที่สุด ต้องยอมเสียการ์ดไปเพื่อแต้มสนทนา หรือเก็บไว้ใช้เพื่อเพิ่มผลสำเร็จจากการทอยเต๋า (ทิ้ง2ใบทำให้หน้าเต๋าเลข 4 เป็นหน้าเต๋าผลสำเร็จ) เกมมีคนร้ายให้เลือก 3 ตัว
1 ตัวเป็นตัวเริ่มต้นให้รู้จักระบบเกม และที่เหลือคนร้ายจะมีความสามารถพิเศษ ทำให้เกมดูมีความยากมากขึ้น (แค่ตัวเริ่มต้นนี่กว่าจะผ่าน ผมก็กินเวลานานเหมือนกัน) แต่เกมค่อนข้างใช้ดวงเยอะหน่อย ถ้าตอนไหนดวงดีเล่นการ์ดใบไหนก็ได้ทั้งนั้น ดีหมด ซึ่งตัวเกมก็ไม่ได้มีอะไรมาเสริมช่วยเรื่องลดทอนเรื่องดวงจากการทอยเต๋าเลย
เกมยังมีการออกตัวเสริมออกมาให้มีความหลากหลายมากขึ้นมีการ์ดให้ใช้เยอะขึ้น ทั้งคนร้าย และระบบยิ๊บย่อย ซึ่งทำออกมาได้ดีเลย (ผมซื้อตัวเสริมมาอีก 2 ตัวเท่านั้น แต่เห็นจากเว็บมีทั้งหมด 4 ตัว )
ใครที่สนใจเกมนี้คงต้องพิจารณาถึงพฤติกรรมการเล่นตัวเองเสียหน่อย เกมนี้เหมือนเป็นเกมที่จะต้องเก็บอยู่บ้านเวลาว่างๆมีความอยากเล่นบอร์ดเกม ก็สามารถเอามาเล่นแก้ความอยากได้ เกมจบไว ตั้งเกมง่าย
แต่สำหรับคนที่ไปกับกลุ่มเพื่อน หรือเล่นทีไรก็มีเพื่อนมากันเยอะแยะ อาจจะต้องขึ้นหิ้งไปเลยก็ได้สำหรับเกมนี้
สิ่งที่ชอบ
– เล่นได้คนเดียว ตั้งไว เล่นไว
– เหมาะไว้เวลามีความอยากเล่นบอร์ดเกม แล้วไม่รู้จะเลือกอะไร
– วิธีเล่นง่าย แต่เล่นจริงๆก็ไม่ได้ง่าย
สิ่งที่รู้สึกต้องปรับปรุง
– รู้สึกถูกกำหนดด้วยดวงมากไป บางครั้งดวงน้อย เล่นยากมาก ทอยยังไงก็ไม่เคยสำเร็จ
วิธีการเล่น
(คลิปวิดีโอจาก https://www.youtube.com/watch?v=Q4B6qY1bfx4)
จำนวนผู้เล่นที่แนะนำ : 1 คน
เวลาในการเล่นต่อรอบ : 20 นาที
อายุที่เหมาะสม : 13 ปีขึ้นไป
ประเภทของเกม
Dice and Card Games
Hand management
อุปกรณ์การเล่น
- Abductor Cards x 3
- 2nd in Command Card x 1
- Major Demand Cards X 7
- Escape Demand Cards x 4
- Red Terror Cards x 21
- Gold Pivotal Event Terror Cards x 6
- Conversation Cards x 22
- Custom Dice x 5
- Yellow Hostage Pieces x 15
- Red Threat Level Marker x 1
- Blue Conversation Point Marker x 1
- Hostage Negotiator Tableau x 1
- Rulebook x 1
Rule Book โหลดได้ที่นี้
เว็บไซต์ผู้ผลิต http://www.vanrydergames.com/
สำหรับใครที่สนใจอยากพูดคุยเรื่องบอร์ดเกม หาที่เล่นหรืออยากให้ผมเอาเกมไหนมาแนะนำ ขอเชิญเข้ามาพูดคุยกันในกลุ่ม Tabletop Khon Kaen และเพจของเราได้ที่ D-Toys Boardgames
ทางร้านเรายังจำหน่ายเกม console PS4 Psvita 3DS และ Xbox ติดตามข่าวสารได้ที่ D-Toys & Rangameshop
และสำหรับท่านที่สนใจสนับสนุน blog ผมสามารถเลือกเข้าไปชมใน our store ได้เลยครับ